วันที่ 13 พฤศจิกายน 2563 กองทัพภาคที่ 3/กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 แถลงข่าวประชาสัมพันธ์ ประจำสัปดาห์ ครั้งที่ 107 ณ อาคารศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองทัพภาคที่ 3 ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก โดยมี พันเอก รุ่งคุณ มหาปัญญาวงศ์ โฆษกกองทัพภาคที่ 3/กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 พร้อมด้วย พันเอก นายแพทย์ วิโรจน์ ชนม์สูงเนิน รองโฆษกฯ เป็นผู้แถลงข่าวฯ มีสาระสำคัญดังนี้
จากข้อมูลในการเฝ้าระวังของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พบว่าในช่วงตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน 2563 ถึงปัจจุบัน พบรายงานผู้ติดเชื้อทางเดินหายใจจากเชื้อไวรัสอาร์เอสวี (Respiratory Syncytial Virus : RSV) ในหลายพื้นที่ของไทย ได้แก่ อุดรธานี อุบลราชธานี และชัยภูมิ รวมถึงพบผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นเด็กหญิงอายุ 10 เดือน ที่จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งจากคลังข้อมูลสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ปี 2560-2563 พบว่า มักพบผู้ป่วยโรคนี้ในช่วงหน้าฝนและหน้าหนาว ตั้งแต่เดือนสิงหาคม ถึงเดือนพฤศจิกายนของทุกปี จังหวัดที่พบจำนวนผู้ป่วยสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ นครราชสีมา สุรินทร์ ขอนแก่น มหาสารคาม และปัตตานี ทั้งมีแนวโน้มที่จะแพร่กระจายโรคได้อีกในหลายพื้นที่
โดยคาดว่าในช่วงนี้ จะพบผู้ป่วยโรคติดเชื้อทางเดินหายใจจากเชื้อไวรัสอาร์เอสวีอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นฤดูกาลระบาดการติดต่อเกิดขึ้นได้ง่ายทางละอองฝอย หรือการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อ ผ่านการไอ หรือจาม อาการจะเกิดขึ้นหลังจากที่สัมผัสเชื้อ 4 – 6 วัน อาการมีตั้งแต่เล็กน้อยเหมือนไข้หวัด ถึงรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต กลุ่มเสี่ยงที่ทำให้อาจเกิดอาการรุนแรง คือ เด็กเล็ก เด็กที่คลอดก่อนกำหนด และกลุ่มผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป รวมถึงผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน โรคปอด โรคหัวใจ หรือมีปัญหาเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกันร่างกายผิดปกติ เป็นต้น
ในการนี้ แม่ทัพภาคที่ 3/ผู้บัญชาการศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพภาคที่ 3 ได้มอบหมายให้โรงพยาบาลทหารทั้ง 10 แห่ง ในพื้นที่ภาคเหนือ ได้ดำเนินการประชาสัมพันธ์เพื่อเฝ้าระวังโรค ทั้งนี้ ขอแนะนำผู้ปกครองและสถานศึกษาควรสังเกตอาการบุตรหลาน และเด็กนักเรียน อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ให้เด็กล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่และน้ำสะอาด โดยเฉพาะก่อนมื้ออาหาร และหลังเข้าห้องน้ำ ไม่ใช้แก้วน้ำหรือของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น รักษาสุขอนามัยส่วนตัว หลีกเลี่ยงการสัมผัสผู้ที่ติดเชื้อและการไปในสถานที่ที่ผู้คนหนาแน่น ไม่ควรพาเด็กไปเล่นในที่ที่มีเด็กเล่นอยู่ด้วยกันจำนวนมาก ส่วนผู้ที่ป่วยควรงดการออกนอกบ้านในช่วงที่ไม่สบาย เพื่อลดการแพร่กระจายเชื้อไปยังผู้อื่น และควรปิดปากปิดจมูกเวลาไอจามด้วยหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย ทำความสะอาดบ้าน รวมทั้งของเล่นเด็กเป็นประจำ ควรรับประทานอาหารที่ถูกสุขลักษณะ ดื่มน้ำมากๆ และให้เด็กพักผ่อนให้เพียงพอ หากเด็กมีอาการป่วยเป็นไข้หวัด ควรแยกเด็กออกจากเด็กปกติ เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่เชื้อและขอให้ได้ไปพบแพทย์ ณ โรงพยาบาลทหารทั้ง 10 แห่ง ในพื้นที่ภาคเหนือ หรือโรงพยาบาลในสังกัดของกระทรวงสาธารณสุขใกล้บ้านโดยเร็ว เพื่อคัดกรอง วินิจฉัย และรักษาต่อไป หรือสอบถามข้อมูลได้ที่สายด่วน กรมควบคุมโรค โทร.1422
********************************