ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นำพสกนิกรร่วมประกอบพิธีวางพานพุ่มดอกไม้สด เนื่องใน “วันพระบิดาแห่งฝนหลวง” ประจำปี 2563 เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ผู้ทรงก่อให้เกิดโครงการพระราชดำริฝนหลวง อันสามารถบรรเทาทุกข์แก่มวลพสกนิกรให้รอดพ้นจากความแห้งแล้งได้อย่างสัมฤทธิ์ผล
เมื่อวันที่ 14 พ.ย. 63 เวลา 09.00 น. ที่ห้องนิทรรศการ 1 อาคารอุทยานหลวงราชพฤกษ์ นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นำคณะผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ร่วมประกอบพิธีวางพานพุ่มดอกไม้สด เพื่อถวายสักการะและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในวันพระบิดาแห่งฝนหลวง ประจำปี 2563 พร้อมอ่านคำกล่าวถวายสักการะ น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ 9 และเยี่ยมชมนิทรรศการฝนหลวง รวมถึงนิทรรศการจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่ได้นำมาจัดแสดง
ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2545 กำหนดให้วันที่ 14 พฤศจิกายน ของทุกปี เป็น “วันพระบิดาแห่งฝนหลวง” เพื่อเป็นการแสดงความจงรักภักดีและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่ทรงก่อให้เกิดโครงการพระราชดำริฝนหลวง เพื่อบรรเทาทุกข์แก่มวลพสกนิกรให้รอดพ้นจากความแห้งแล้งอย่างสัมฤทธิ์ผล และจารึกไว้เป็นวันสำคัญของประวัติศาสตร์ชาติไทย โดยโครงการพระราชดำริ “ฝนหลวง” ได้สร้างคุณูปการทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะความมั่นคงด้านน้ำให้แก่ประเทศไทย และด้วยพระปรีชาสามารถของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ได้ทรงคิดค้นเทคโนโลยีฝนหลวงขึ้น จนได้รับการยอมรับจากทั่วโลก ซึ่งได้มีการจดสิทธิบัตรในพระปรมาภิไธยทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยได้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตในการนำเทคนิคและวิธีการทำฝนหลวง ตามตำราฝนหลวงพระราชทาน ไปปรับใช้แก้ปัญหาความแห้งแล้งในประเทศต่าง ๆ ซึ่งถือได้ว่าโครงการพระราชดำริ “ฝนหลวง” เป็นนวัตกรรมที่เกิดจากพระอัจฉริยภาพอย่างแท้จริง และเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยและคนทั่วโลก