ตามที่ประเทศไทย ได้เกิดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กและคุณภาพอากาศ ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ ซึ่งปัจจุบัน สถานการณ์จุดความร้อนและค่าคุณภาพอากาศทางภาคเหนือ เริ่มส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและสุขภาพของประชาชน ซึ่งสาเหตุเกิดจากการบริหารจัดการเชื้อเพลิง และการเผาเพื่อเตรียมพื้นที่ทางการเกษตร รวมถึงปัญหาหมอกควันข้ามแดนจากประเทศเพื่อนบ้านที่มีปริมาณสูงขึ้น อีกทั้งประเทศไทยได้เริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว ส่งผลให้เกิดความแห้งแล้ง ประกอบกับสภาพอากาศปิด ลมสงบนิ่ง จึงส่งผลกระทบต่อสภาพอากาศโดยรวมของพื้นที่ภาคเหนือค่อนข้างมาก นั้น
ในการนี้ กองทัพบก โดย กองทัพภาคที่ 3 และทุกภาคส่วนได้ร่วมกันดำเนินการแก้ไขปัญหาและร่วมกันทำกิจกรรมต่างๆ ในการลดปัญหาไฟป่าและหมอกควันภาคเหนืออย่างจริงจัง รวมทั้งได้นำยุทโธปกรณ์ทางทหารมาช่วยในการแก้ไขสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันภาคเหนือ ดังนี้
1. ระบบอากาศยานไร้คนขับ (UAV Hermes 450) โดย UAV ได้ติดกล้องอินฟราเรด เพื่อจับความร้อนและรายงานผลกลับไปยังศูนย์ควบคุม สามารถค้นหา “Hot Spot” แบบ Real Time ซึ่งสามารถปฏิบัติภารกิจบินอยู่ในอากาศนานถึง 18 ชั่วโมง ที่ความสูง 18,000 ฟุต
2. เฮลิคอปเตอร์ใช้งานทั่วไป แบบ 17 (ฮ.ท.17) โดย ฮ.ท.17 สามารถลำเลียงน้ำได้เที่ยวละ 3,000 ลิตร บินด้วยความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ความสูงในการบินหรือเพดานบินอยู่ที่ 6,000 เมตร สามารถบินได้นาน 3 ชั่วโมง 20 นาที โดยใช้แหล่งน้ำจากอ่างเก็บน้ำในพื้นที่
ทั้งนี้จึงขอเรียนให้พี่น้องประชาชน ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือทราบ เพื่อให้เกิดความมั่นใจได้ว่า กองทัพบก โดย กองทัพภาคที่ 3 มีความพร้อมที่จะสนับสนุนกำลังพลและยุทโธปกรณ์ทางทหารในการช่วยเหลือประชาชนยามวิกฤตทุกโอกาส