เมื่อวันที่ 12 พ.ย.58 ที่บ้านน้ำจวง หมู่ 13 ตำบลบ่อภาค อำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก ชาวไทยภูเขาเผ่าม้ง ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้ ได้พร้อมใจกันนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในด้านการอนุรักษ์ดินและน้ำ มาใช้ในการทำนาขั้นบันได แทนการทำไร่เลื่อนลอย ปลูกขิง ปลูกข้าวโพด และพืชไร่อื่นๆ ซึ่งการปลูกพืชดังกล่าว ส่งผลทำให้ป่าเสื่อมโทรม และมีแนวโน้มว่าจะมีการบุกรุกป่าเพิ่มขึ้น จึงได้หันมาทำนาขั้นบันไดแทน โดยได้รับความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่จากโครงการพัฒนาเพื่อความมั่นคงภูขัด ภูเมี่ยง ภูสอยดาว และสำนักงานพัฒนาที่ดินเขต 8 พิษณุโลก เข้ามาส่งเสริมและให้ความรู้ พร้อมนำพื้นที่ที่ถูกบุกรุกแผ้วถาง มาทำการอนุรักษ์ดินและน้ำ ด้วยการปรับพื้นที่ปลูกนาขั้นบันไดและปลูกข้าวสายพันธุ์ดี ลงบนเนื้อที่กว่า 150 ไร่ ที่ให้ผลผลิตเฉลี่ยประมาณ 80 ถังต่อไร่ โดยมีแหล่งน้ำขนาดใหญ่ที่มีน้ำตลอดปีไว้ใช้ ทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องการขาดแคลนน้ำในการทำนาช่วงฤดูแล้ง
ด้านนายเสมอ สงศิลาวัต ชาวไทยภูเขาเผ่าม้ง บ้านน้ำจวง กล่าวว่า การทำไร่เลื่อนลอย ในแต่ละปีจะต้องทำการบุกรุกพื้นที่ป่าเพื่อเป็นที่ทำกินเป็นบริเวณกว้าง สร้างความเสียหายให้กับธรรมชาติโดยและป่าต้นน้ำ ตลอดจนส่งผลกระทบต่อคนในพื้นที่ ดังนั้นการนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงในด้านการอนุรักษ์ดินและน้ำของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ของหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง มาส่งเสริมและให้ความรู้ในการใช้ประโยชน์ที่ดินให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ จึงทำให้ชาวไทยภูเขาแห่งนี้ ไม่มีการทำไร่เลื่อยลอยเหมือนในอดีตที่ผ่านมา พลิกฟื้นแผ่นดินที่เคยถูกเป็นไร่เลื่อลอยให้กลายเป็นผืนแผ่นดินแห่งพืชพันธุ์ที่อุดมสมบูรณ์ เต็มไปด้วยนาขันบันไดที่เขียวขจีเต็มพื้นที่ ราษฏรมีอาชีพที่ยั่งยืนส่งผลให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น