นายชาติชาย มัฆวิมาลย์ ขนส่งจังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยว่า ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2558 มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมเร่งรัดกำหนดแนวทางการลดอุบัติเหตุทางถนน โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถโดยสารสาธารณะจะต้องติดตั้งระบบ GPS เพื่อติดตามตรวจสอบตำแหน่งรถและมีระบบติดตามมิให้ผู้ขับรถปฏิบัติหน้าที่ขับรถเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด กรมการขนส่งทางบกได้รับนโยบายดังกล่าวมาดำเนินการภายใต้โครงการ “มั่นใจทั่วไทย รถใช้ GPS” และได้รับฟังความคิดเห็นจากผู้ประกอบการขนส่งแล้ว จึงได้ออกประกาศกรมการขนส่งทางบก จำนวน 6 ฉบับ กำหนดประเภทและลักษณะรถที่ต้องติดตั้ง GPS สรุปได้ดังนี้
รถโดยสารประจำทาง และรถโดยสารไม่ประจำทาง
- รถโดยสารประจำทาง เส้นทางในเขตกรุงเทพมหานคร (หมวด 1) เส้นทางกรุงเทพฯ-ต่างจังหวัด (หมวด 2)เส้นทางระหว่างจังหวัด(หมวด 3 ) และรถโดยสารไม่ประจำทาง ยกเว้นรถสองแถว
1.1 รถจดทะเบียนใหม่ตั้งแต่วันที่ 25 มกราคม 2559 เป็นต้นไป
1.2 รถที่จดทะเบียนก่อนวันที่ 25 มกราคม 2559 แยกเป็น
1) รถที่ยังมิได้ติดตั้ง GPS หรือติดตั้งแล้ว แต่ไม่เป็นไปตามที่กรมการขนส่งทางบกให้การรับรองและไม่สามารถเชื่อมต่อข้อมูลความเร็วและตำแหน่งพิกัดบนโลกของรถเข้ากับศูนย์บริหารจัดการเดินรถด้วยระบบกำหนดตำแหน่งบนโลกของกรมการขนส่งทางบกได้ ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนการตรวจสภาพรถ เพื่อต่ออายุทะเบียนสำหรับรถนั้นในปี พ.ศ. 2560
2) รถที่ได้ติดตั้ง GPS แล้วแต่ไม่เป็นไปตามที่กรมการขนส่งทางบกให้การรับรอง หากสามารถเชื่อมต่อข้อมูลความเร็วและตำแหน่งพิกัดบนโลกของรถเข้ากับศูนย์บริหารจัดการเดินรถด้วยระบบกำหนดตำแหน่งบนโลกของกรมการขนส่งทางบกก่อนการตรวจสภาพรถเพื่อต่ออายุทะเบียนสำหรับรถนั้นในปี พ.ศ. 2562
1.3 รถโดยสารสองชั้น ที่จดทะเบียนก่อนวันที่ 1 มกราคม 2556 ต้องติดตั้ง GPS ที่กรมการขนส่งทางบกให้การรับรองให้แล้วเสร็จก่อนการตรวจสภาพรถเพื่อต่ออายุทะเบียนสำหรับรถนั้นในปี พ.ศ. 2559
รถลากจูงและรถบรรทุก 10 ล้อ ขึ้นไป
- รถลากจูง และ รถบรรทุก 10 ล้อ ขึ้นไป ในประเภทการขนส่งไม่ประจำทางและการขนส่งส่วนบุคคล
2.1 รถจดทะเบียนใหม่ตั้งแต่วันที่ 25 มกราคม 2559 เป็นต้นไป
2.2 รถที่จดทะเบียนก่อนวันที่ 25 มกราคม 2559 ที่ยังไม่ได้ติดตั้ง GPS หรือติดตั้งแล้วแต่ไม่เป็นไปตามที่กรมการขนส่งทางบกให้การรับรองและไม่สามารถเชื่อมต่อข้อมูลความเร็วและตำแหน่งพิกัดบนโลกของรถเข้ากับศูนย์บริหารจัดการเดินรถฯ ของกรมการขนส่งทางบกได้ ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเวลา ดังนี้
(1) การขนส่งไม่ประจำทาง
(1.1) รถพ่วง ต้องดำเนินการติดตั้ง GPS ให้แล้วเสร็จก่อนการตรวจสภาพรถเพื่อต่ออายุทะเบียนสำหรับรถนั้นในปี พ.ศ. 2560
(1.2) รถบรรทุก 10 ล้อ ขึ้นไป ต้องดำเนินการติดตั้ง GPS ให้แล้วเสร็จก่อนการตรวจสภาพรถเพื่อต่ออายุทะเบียนสำหรับรถนั้นในปี พ.ศ. 2561
(2) การขนส่งส่วนบุคคล
(2.1) รถพ่วงต้องดำเนินการติดตั้ง GPS ให้แล้วเสร็จก่อนการตรวจสภาพรถเพื่อต่ออายุทะเบียนสำหรับรถนั้นในปี พ.ศ. 2560
(2.2) รถบรรทุก 10 ล้อขึ้นไป ต้องดำเนินการติดตั้ง GPS ให้แล้วเสร็จก่อนการตรวจสภาพรถเพื่อต่ออายุทะเบียนสำหรับรถนั้นในปี พ.ศ. 2562
3) รถที่ได้ติดตั้ง GPS ไว้แล้ว แต่ไม่เป็นไปตามที่กรมการขนส่งทางบกให้การรับรอง หากสามารถเชื่อมต่อข้อมูลความเร็วและตำแหน่งพิกัดบนโลกของรถเข้ากับศูนย์บริหารจัดการเดินรถฯ ของกรมการขนส่งทางบกก่อนการตรวจสภาพรถเพื่อต่ออายุทะเบียนสำหรับรถนั้นในปี พ.ศ. 2559 หรือภายในปี พ.ศ. 2559 ให้สามารถใช้ GPS นั้นได้ แต่ต้องติดตั้งGPS ที่กรมการขนส่งทางบกให้การรับรองให้แล้วเสร็จก่อนการตรวจสภาพรถเพื่อต่ออายุทะเบียนสำหรับรถนั้นในปี พ.ศ.2562
สำหรับเครื่อง GPS ที่กรมการขนส่งทางบกได้ให้การรับรองแล้ว สามารถตรวจสอบข้อมูลได้ที่http://apps.dlt.go.th/esb/approve.html หัวข้อรายการแบบเครื่องบันทึกข้อมูลการเดินรถของรถ(GPS) หรือติดต่อที่สำนักวิศวกรรมยานยนต์ กรมการขนส่งทางบก โทรศัพท์ 0-2271-8605 หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมไดที่สำนักงานขนส่งจังหวัดพิษณุโลก โทรศัพท์หมายเลข 055 – 301031