ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก สุ่มตรวจชุดสังฆทานและชุดไทยธรรม ก่อนเทศกาลวันเข้าพรรษา ประจำปี2558
เมื่อวันที่ 27 ก.ค.58 เวลา 09.00 น.นายจักริน เปลี่ยนวงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด สำนักงานพาณิชย์จังหวัด การค้าภายใน ได้ลงพื้นที่ในการสุ่มตรวจสอบร้านค้าที่จำหน่ายเครื่องสังฆภัณฑ์ และสังฆทาน ในเขตเทศบาลนครพิษณุโลก โดยผู้ว่าราชการจังหวัดระบุว่ายังไม่พบสินค้าหมดอายุ แต่ได้กำชับให้ติดป้ายแสดงราคาให้ผู้บริโภคเห็นชัดเจน โดยได้สุ่มตรวจที่บริเวณร้านพระกิ่ง ร้านพชรพระเครื่อง และร้านพิษณุโลกสังฆภัณฑ์ บริเวณด้านหลังวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร ถนนเอกาทศรถ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งเป็นแหล่งค้าสังฆภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดพิษณุโลก เพื่อป้องปรามการจำหน่ายเครื่องสังฆทานที่ไม่ได้คุณภาพ ซึ่งวันนี้ที่มีการสุ่มตรวจสังฆทาน เพื่อไม่ให้ร้านค้าเอาเปรียบผู้บริโภค เนื่องจากว่าอาจมีผู้ประกอบธุรกิจบางรายฉวยโอกาสนำสินค้าที่ไม่มีคุณภาพ หรือหมดอายุ และมีปริมาณไม่ครบถ้วนตามที่ระบุไว้ในฉลากมาจำหน่ายให้ลูกค้าในช่วงเทศกาลงานบุญเข้าพรรษา เนื่องจากในช่วงเวลานี้ พุทธศาสนิกชน จะนิยมมาหาซื้อชุดสังฆทานและชุดไทยธรรม เพื่อนำไปถวายวัด ในช่วงเทศกาลวันเข้าพรรษา ประจำปี 2558 ที่จะมาถึงนี้ ซึ่งชุดสังฆทานและชุดไทยธรรม เป็นสินค้าที่คณะกรรมการว่าด้วยฉลากได้มีประกาศให้เป็นสินค้าควบคุมที่ต้องระบุรายละเอียดสินค้า พร้อมทั้งบอกชื่อ สถานที่ตั้งของผู้ผลิตหรือผู้จำหน่าย ขณะเดียวกันก็ต้องระบุวันเดือนปีที่หมดอายุ วันเดือนปีที่บรรจุ หากผู้ใดขายสินค้าที่มีประกาศควบคุมฉลาก โดยไม่มีฉลาก หรือมีฉลากแต่ฉลากนั้นไม่ถูกต้อง จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 5 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ด้านนางสาวปราณี เอี่ยมสำอางค์ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 68/1 ถ.เอกาทศรถ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก เจ้าของร้าน พิษณุโลกสังฆภัณฑ์ ได้กล่าวว่าร้านของตนจะเลือกซื้อชุดสังฆทานในราคาส่งจากบริษัทที่ผ่านการตรวจจากสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคเท่านั้น ซึ่งจะได้สินค้าที่มีคุณภาพ โดยในปีนี้ราคาจำหน่ายสังฆทานไม่ปรับเปลี่ยนมากนัก มีจำหน่ายให้ลูกค้าเลือกตั้งแต่ ราคา 100 – 490 บาท และเห็นด้วยที่ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาตรวจ เนื่องจากจะได้มั่นใจว่าลูกค้า หรือผู้บริโภคจะได้สังฆทานที่มีคุณภาพ และจะได้ไม่เป็นภาระของพระสงฆ์