ค่ำวันที่ 1 ธ.ค59 ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานฝ่ายฆารวาส และพระธรรมเสนานุวัตร ประธานฝ่ายสงฆ์ ได้ประกอบพิธีสวดมนต์เย็น เจริญพระพุทธมนต์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรากูร พระองค์ใหม่ พิธีแสดงธรรมเทศนาเฉลิมพระเกียรติ และการสวดเจริญชัยมงคลคาถา และลั่นฆ้อง กลอง และระฆัง พร้อมกันทุกวัดทั่วทั้ง 9 อำเภอ ทั่วจังหวัด เพื่อเฉลิมฉลองรัชกาลที่ 10 ที่ทรงรับอัญเชิญขึ้นทรงราชย์เป็นพระมหากษัตริย์สืบราชสันตติวงศ์สืบไป
รัฐบาลจึงปฏิบัติให้เป็นไปตามโบราณราชประเพณี โดยไม่ขัดต่อกฎหมาย ทั้งยังสอดคล้องกับคตินิยมในนานาประเทศที่ว่า ราชอาณาจักรย่อมไม่ว่างเว้นขาดตอนจากการมีพระมหากษัตริย์ ดังนั้นการเริ่มรัชกาลใหม่จึงมีผลต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคม พุทธศักราช 2559 เป็นต้นไป
โดย สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามกุฎราชกุมาร ซึ่งทรงสถิตอยู่ในพระราชสถานะองค์พระรัชทายาทมาตั้งแต่พุทธศักราช 2515 นับเป็นเวลาถึง 44 ปี จึงทรงเป็น สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ 10 แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ และทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจตามรัฐธรรมนูญทุกประการ ส่วนการจะดำเนินการต่อไปเพื่อให้เป็นไปตามโบราณราชขัตติยประเพณีที่เรียกว่า “พระราชพิธีบรมราชาภิเษก” นั้น ย่อมขึ้นอยู่กับพระราชวินิจฉัย ซึ่งมีพระราชดำริแล้วว่าควรดำเนินการเมื่อเสร็จสิ้นการพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศแล้ว