วันที่ 27 ก.พ.60 เวลา 13.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ชั้น 7ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก พร้อม พ.อ. ยศทอง อัคราธรรม รองหัวหน้ากลุ่มงานยุทธศาสตร์ความมั่นคงภายในจังหวัดพิษณุโลก และหัวหน้าส่วนราชการ ร่วมกันแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ในการเตรียมการรับฟังแสดงความคิดเห็น เพื่อสร้างความสามัคคีปรองดองของจงหวัดพิษณุโลก นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้กำหนดการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง จำนวน 4 คณะ ประกอบด้วย 1.คณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินเชิงยุทธศาสตร์ 2. คณะกรรมการเตรียมการปฏิรูปประเทศ 3.คณะกรรมการเตรียมการยุทธศาสตร์ชาติ 4.คณะกรรมการการเตรียมการเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง โดยคณะที่ 4 นี้ ทุกจังหวัดในประเทศไทย ต้องหาแนวทางการสร้างความสามัคคีปรองดองให้เกิดขึ้น
ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า ในส่วนของจังหวัดพิษณุโลก ได้จัดเวทีแสดงความคิดเห็นของกลุ่มเป้าหมาย จำนวน 4 กลุ่ม โดยกำหนดรับฟังความคิดเห็นจากกลุ่มต่างๆ แบ่งออกเป็น กลุ่มที่ 1 เป็นกลุ่มการเมืองท้องถิ่น ได้แก่ กลุ่มสนับสนุนพรรคการเมือง กลุ่มทุนทางการเมือง กลุ่มนักการเมืองท้องถิ่น กลุ่มแกนนำมวลชนทางการเมือง กำหนดช่วงระหว่างวันที่ 4 – 6 มีนาคมนี้ กลุ่มที่ 2 กลุ่มนักวิชาการ นักศึกษา สื่อมวลชน กลุ่มองค์กรภาคประชาสังคม(CSOs) กลุ่มองค์กรพัฒนาเอกชน (NGOs) กลุ่มที่มีอุดมการณ์ทางการเมือง กำหนดในวันที่ 8 มีนาคมนี้ กลุ่มที่ 3 กลุ่มข้าราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน พนักงานรัฐวิสาหกิจ หอการค้าจังหวัด กลุ่ม/องค์กรที่ทำงานร่วมกับส่วนราชการ กำหนดในวันที่ 13 มีนาคมนี้ และกลุ่มที่ 4 กลุ่มผู้นำชุมชน ผู้นำจิตวิญญาณ ชาวบ้านทั่วไป กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในท้องถิ่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง กลุ่มในท้องถิ่นที่ได้รับความเดือดร้อนจากโครงการองรัฐ กลุ่มสาขาวิชาชีพ กำหนดไว้วันที่ 17 มีนาคมนี้ ทั้งนี้ ทางจังหวัดได้กำหนดสถานที่ รับฟังความคิดเห็น ไว้ที่ศาลากลางจังหวัด ช่วงเวลาประมาณ 8.30 เป็นต้นไป มีทั้งประเด็นการเมือง ในการแก้ปัญหาโดยสันติวิธี ลดความขัดแย้ง ด้านความเหลื่อมล้ำ แก้ไขปัญหาที่ทำกินให้เกษตรกร และการจัดการน้ำเพื่อทำเกษตร ไร่ – นา ด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ด้านสังคม เศรษฐกิจ การศึกษา และสาธารณสุข ด้านการสื่อสารมวลชน ด้านทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ด้านการต่างประเทศ ด้านการป้องกันการทุจริตคอรัปชั่น ด้านการปฏิรูปประเทศ และด้านยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี