นายแพทย์ปิยะ ศิริลักษณ์นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยว่าโรคหลอดเลือดสมองแม้จะเป็นโรคที่อันตราย แต่เป็นโรคที่สามารถป้องกันได้ โดยการหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคหลอดเลือดสมอง เช่น งดดื่มเหล้า งดสูบบุหรี่ หลีกเลี่ยงอาหารประเภทไขมัน แป้ง น้ำตาล หันมารับประทานอาหารประเภทผักผลไม้ ไม่เครียด และหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ นอกจากจะช่วยให้ห่างไกลจากอัมพาตแล้วยังส่งผลให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงและห่างไกลโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ส่วนผู้ป่วยเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง และโรคอ้วน ควรดูแลตัวเองและควบคุมโรค เพื่อป้องกันไม่ให้ไขมันอุดตันในเส้นเลือดและเส้นเลือดตีบ
สถานการณ์โรคหลอดเลือดสมองจังหวัดพิษณุโลก มีแนวโน้มของการเสียชีวิตด้วยโรคหลอดเลือดสมองในทุกกลุ่มอายุเพิ่มมากขึ้น ตั้งแต่ปี 2556-2559 พบว่า มีอัตราตายต่อแสนประชากร เท่ากับ 49.04, 52.57, 51.30 และ 54.96 ตามลำดับ ปี 2559 ในทุกกลุ่มอายุมีผู้เสียชีวิต จำนวน 481 ราย อัตราตายเท่ากับ 54.96 ต่อแสนประชากร อำเภอที่มีอัตราตายสูงได้แก่ บางกระทุ่ม, เมืองพิษณุโลก และพรหมพิราม เท่ากับ 90.60, 89.56 และ 61.11 ต่อแสนประชากร ตามลำดับ โรคหลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตันในผู้สูงอายุ มีจำนวนผู้เสียชีวิต 327 ราย อัตราตายเท่ากับ 215.74 ต่อแสนประชากร อำเภอที่มีอัตราตายสูง ได้แก่ อำเภอวัดโบสถ์,บางกระทุ่ม และพรหมพิราม เท่ากับ 256.53, 255.70 และ 242.93 ต่อแสนประชากร ตามลำดับ อัตราตายผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ปี 2556-2559 พบอัตราตายเท่ากับ 14.94, 13.86, 14.92, 9.33 และ 14.35 ตามลำดับ
องค์การอัมพาตโลก ได้ให้ความสำคัญและมุ่งเน้นการป้องการควบคุมโรคหลอดเลือดสมองใน 3 ประเด็นหลัก คือ สร้างความตระหนักต่อโรค (Awareness),ส่งเสริมการเข้าถึงบริการสาธารณสุข (Access) และการลงมือปฏิบัติเพื่อควบคุมป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง (Action)
ปัจจัยเสี่ยงที่สามารถป้องกันได้ เช่น 1) ภาวะความดันเลือดสูง เป็นปัจจัยเสี่ยงอันดับ 2 รองจากอายุ 2) โรคหัวใจ ผู้ที่เป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ผู้ที่มีหัวใจเต้นผิดจังหวะ และผู้ที่มีการหนาตัวของผนังหัวใจห้องล่างซ้าย 3) การสูบบุหรี่ ในผู้ที่สูบบุหรี่จัดมากกว่า 40 มวนต่อวัน มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง สูงถึง 2 เท่าของผู้ที่สูบบุหรี่ น้อยกว่า 10 มวนต่อวัน และสูงกว่าคนไม่สูบบุหรี่ 4) การดื่มสุรา ผู้ที่ดื่มปานกลางจนถึงดื่มจัด จะมีอัตราเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมองสูงกว่าคนปกติ 5) เบาหวาน 6) ไขมันในเลือดสูง 7) ภาวะหลอดเลือดคาโรติดตีบ (บริเวณคอ) โดยไม่มีอาการ (Asymptomatic carotid artery stenosis) 8) เคยเป็นโรคหลอดเลือดสมองมาก่อน
ปัจจัยเสี่ยงที่ไม่สามารถป้องกันได้ เช่น 1) อายุ ผู้ที่มีอายุมากกว่า 65 ปี มีอัตราเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง 2) เพศ พบในเพศชายมากกว่าเพศหญิง แต่เมื่อเข้าสู่วัยทองโอกาสเกิดโรคหลอดเลือดสมองในผู้หญิงจะเพิ่มขึ้น 3) เชื้อชาติ เช่น คนผิวดำมีอัตราการเกิดและการเสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดสมองสูงกว่าคนผิวขาว ในขณะที่ชาวเอเชียพบการตีบตันที่หลอดเลือดสมองบ่อยกว่า 4) พันธุกรรม ในผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคหลอดเลือด
แนวทางในการป้องกันและควบคุมโรคหลอดเลือดสมองสำหรับประชาชนต้อง) เรียนรู้สัญญาณเตือนของโรคหลอดเลือดสมอง (อัมพฤกษ อัมพาตประกอบไปด้วย (1) ใบหน้าอ่อนแรง หรือหน้าเบี้ยว (2) สับสน พูดลำบาก พูดไม่ชัด (3) ตาข้างใดข้างหนึ่งมัวหรือมองไม่เห็น (4) มีอาการมึนงง เดินเซ เสียศูนย์ หรือใช้ ตัวย่อช่วยจำ “F.A.S.T.”มาจาก F = Face เวลายิ้มพบว่ามุมปากข้างหนึ่งตก , A = Arms ยกแขนไม่ขึ้น 1 ข้าง , S = Speech ปากเบี้ยว พูดไม่ชัด พูดลำบาก พูดไม่ได้และT = time ผู้มีอาการดังกล่าวต้องรีบไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุดหรือภายใน 3 ชั่วโมง เพราะการรักษาที่ทันท่วงทีจะช่วยลดความเสี่ยงของความพิการที่อาจจะเกิดขึ้นและรักษาชีวิตของผู้ป่วยไว้ได้ ทั้งนี้หากมีอาการดังกล่าวสามารถ โทรสายด่วน 1669 ให้บริการฟรีตลอด 24 ชั่วโมงทั่วประเทศ