ช่วยเเชร์ จ้า .....

 

   นายแพทย์ปิยะ ศิริลักษณ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลกเปิดเผยว่า วันลอยกระทงในปี 2560 นี้ ตรงกับวันศุกร์ที่ 3 พฤศจิกายน 2560 ซึ่งในแต่ละพื้นที่จะมีการจัดกิจกรรมตามประเพณีและมีประชาชนจำนวนมากร่วมงานดังกล่าว ซึ่งทุกๆ ปี จะมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุต่างๆ โดยเฉพาะการบาดเจ็บจากการจุดพลุ ประทัด ดอกไม้ไฟ ที่ทำให้เกิดการบาดเจ็บรุนแรงและความพิการ นอกจากนี้ยังต้องระวังอุบัติเหตุจากการจมน้ำที่เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 3 ของเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปีในจังหวัดพิษณุโลก

            สำหรับคำแนะนำ มีดังนี้ 1. ไม่ควรเล่นผาดโผน ใกล้วัตถุไวไฟ หรือบ้านเรือน 2. ไม่เก็บพลุ ประทัด ดอกไม้ไฟ ไว้ในกระเป๋าเสื้อ/กางเกง หรือที่มีอากาศร้อน แสงแดดส่อง เพราะทำให้เกิดการเสียดสีและระเบิดได้ 3. การเล่นพลุ ประทัด ดอกไม้ไฟ ของเด็กจะต้องอยู่ในความดูแลของผู้ปกครองอย่างใกล้ชิด 4. ห้ามพยายามจุดดอกไม้ไฟ หรือพลุที่จุดแล้วไม่ติดหรือไม่ระเบิดอย่างเด็ดขาด และควรเตรียมถังน้ำไว้ 1 ถัง ใกล้ตัวเสมอเวลาเล่น เพื่อใช้ดับเพลิง

            ส่วนปัญหาที่สำคัญ การจมน้ำ เพราะเทศกาลลอยกระทงทุกปี เด็กจะมีความเสี่ยงจมน้ำมากขึ้น เพราะเด็กมักจะอยู่ใกล้แหล่งน้ำเพื่อลอยกระทง ทำให้เสี่ยงที่จะลื่นและพลัดตกได้ เหตุการณ์ที่มักพบเห็นกันบ่อยๆ คือ การลงไปเก็บเงินในกระทง ในขณะที่กลุ่มผู้ใหญ่ความเสี่ยงจะเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากมีการดื่มสุราร่วมด้วย จากข้อมูลช่วง 10 ปีที่ผ่านมา (ปี 2549 – 2558) ช่วงเทศกาลลอยกระทง 3 วัน คือ ก่อนวันลอยกระทง วันลอยกระทง และหลังวันลอยกระทง คำแนะนำสำหรับผู้ปกครอง คือ ควรดูแลเด็กอย่างใกล้ชิดไม่ให้คลาดสายตา และเพิ่มความระมัดระวังเมื่อนำเด็กเข้าใกล้แหล่งน้ำ โดยเฉพาะเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ต้องอยู่ในระยะที่มองเห็นและเข้าถึง ที่สำคัญ ไม่ปล่อยให้เด็กไปลอยกระทงกันเองตามลำพัง แม้จะอยู่บนฝั่ง เพราะอาจพลัดตกหรือลื่นได้ และไม่ควรให้เด็กลงเก็บกระทง หรือเก็บเงินในกระทงเด็ดขาด เพราะเด็กอาจจมน้ำและเสียชีวิตได้ เนื่องจากเป็นตะคริวเพราะอยู่ในน้ำเป็นนานและอากาศหนาวเย็นด้วย ส่วนในกลุ่มผู้ใหญ่ควรหลีกเลี่ยงการดื่มสุรา และลงน้ำ หากมีการโดยสารเรือให้สวมเสื้อชูชีพทุกครั้งทั้งผู้ใหญ่และเด็ก

            นอกจากนี้หน่วยงานที่จัดเตรียมพื้นที่สำหรับให้ประชาชนไปลอยกระทง มีข้อแนะนำ ดังนี้ 1. ควรกำหนดพื้นที่ในการลอยกระทง ทำรั้ว หรือสิ่งกั้นขวาง เพื่อป้องกันเด็กตกน้ำ และควรมีผู้ดูแลตลอดเวลา 2. เตรียมอุปกรณ์ช่วยคนตกน้ำไว้ใกล้แหล่งน้ำเป็นระยะๆ ที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย เช่น ถังแกลลอน เชือก ไม้ 3. ติดป้ายคำเตือนไว้ในพื้นที่เสี่ยง หรือที่ห้ามลงไปลอยกระทง 4. ผู้จัดการพาหนะในการเดินทางทางน้ำต้องเตรียมชูชีพสำหรับผู้โดยสารให้ครบทุกคน และต้องไม่บรรทุกผู้โดยสาร หรือน้ำหนักเกินจำนวน หากประชาชนพบเห็นผู้ได้รับบาดเจ็บ ขอให้รีบโทร.แจ้งขอความช่วยเหลือจากทีมแพทย์กู้ชีพ โทร. 1669

 

[ngg_images source=”galleries” container_ids=”2225″ display_type=”photocrati-nextgen_basic_thumbnails” override_thumbnail_settings=”0″ thumbnail_width=”120″ thumbnail_height=”90″ thumbnail_crop=”1″ images_per_page=”200″ number_of_columns=”0″ ajax_pagination=”0″ show_all_in_lightbox=”0″ use_imagebrowser_effect=”0″ show_slideshow_link=”1″ slideshow_link_text=”[Show slideshow]” order_by=”filename” order_direction=”ASC” returns=”included” maximum_entity_count=”500″]

6943 เยี่ยมชมหน้านี้ทั้งหมด 2 เยี่ยมชมวันนี้

By Aui

error: สวัสดีค่ะ