วันที่ 13 เมษายน 2561 เวลา 10.30น. พลตรี รเณศ อินทร์ยิ้ม รองแม่ทัพภาคที่ 3 รองผู้บัญชาการศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพภาคที่ 3 รองผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองทัพภาคที่ 3 พร้อมคณะ เดินทางตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่จุดบริการประชาชน ในห้วงเทศกาลสงกรานต์ 2561พร้อมให้แนวทาง ในการปฏิบัติงาน และมอบสิ่งของอุปโภค – บริโภค ให้แก่เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ ณ จุดบริการประชาชนปั๊มน้ำมันปตท.ศรีสุธาออยล์ ตำบลท่าโพธิ์ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก และจุดตรวจท่างาม อำเภอวัดโบสถ์ จังหวัดพิษณุโลก
ตามที่รัฐบาล ได้มีนโยบายแผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2561 เพื่อให้การดำเนินงานในช่วงเทศกาลสงกรานต์เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ภายใต้แนวคิด “ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร” โดยแบ่งการดำเนินการเป็น 2 ช่วงดังนี้ ช่วงเตรียมความพร้อม การรณรงค์ และเสริมสร้างวินัย เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคมถึง 10 เมษายน 2561และจะดำเนินการอย่างต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปี31 ธันวาคม2561และช่วงควบคุมเข้มข้น ระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน2561เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้เดินทางอย่างปลอดภัย และลดสถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ให้เหลือน้อยที่สุด รวมทั้งมุ่งเน้นการเฝ้าระวัง109อำเภอใน 52 จังหวัด ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุสูง โดยจะดำเนินการภายใต้6 มาตรการสำคัญ ได้แก่ มาตรการลดปัจจัยเสี่ยงด้านคน มาตรการลดปัจจัยเสี่ยงด้านถนนและสิ่งแวดล้อม มาตรการลดปัจจัยเสี่ยงด้านยานพาหนะ มาตรการดูแลความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว มาตรการความปลอดภัยทางน้ำ และมาตรการด้านการช่วยเหลือหลังเกิดอุบัติเหตุ เพื่อให้การดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนมีประสิทธิภาพสูงสุด
ในส่วนของกองทัพบก ผู้บัญชาการทหารบก ได้มอบหมายให้หน่วยทหารของกองทัพบก ร่วมกับภาคส่วนต่างๆ จัดตั้งจุดบริการประชาชน 553จุด ในพื้นที่สำคัญของแต่ละจังหวัด ได้แก่ บริเวณเส้นทางคมนาคมสายหลัก พื้นที่หน้าค่ายทหาร พื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ สถานที่ท่องเที่ยว เส้นทางก่อนถึงด่านชายแดน เป็นต้น เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงเทศกาลสงกรานต์ และให้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย(กกล.รส.) ตั้งจุดตรวจ จุดสกัด และการสกัดกั้นการทำผิดกฎหมาย โดยเฉพาะยาเสพติด อีกทั้งให้จัดตั้งศูนย์อำนวยการร่วมกับตำรวจ จังหวัด เพื่อแก้ไขปัญหาจราจรคับคั่ง พร้อมให้ข้อมูลเส้นทาง โดยต้องมีการประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชน ได้รับทราบถึงจุดเสี่ยง และจุดวิกฤต ในการเดินทางทั้งขาไปและกลับ นอกจากนี้ให้ผู้บังคับบัญชาลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม จุดบริการในพื้นที่ที่รับผิดชอบ และเน้นย้ำให้เตรียมพร้อมกำลังพล เพื่อรองรับสถานการณ์ต่างๆที่อาจเกิดขึ้น
กองทัพภาคที่ 3จึงร่วมกับส่วนราชการและหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ดำเนินการจัดตั้งจุดบริการประชาชน และอำนวยความสะดวก ในห้วงเทศกาลสงกรานต์ 2561ตั้งแต่วันที่ 11เมษายน 2561ถึง 17 เมษายน2561ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ ตามนโยบายของรัฐบาลและกองทัพบก โดยได้กำหนดจุดบริการไว้ที่ถนนสายหลัก, ถนนสายรอง และในบริเวณถนนชุมชน จำนวนทั้งสิ้น 144 จุด เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางให้กับประชาชนได้มีความปลอดภัย และช่วยลดจำนวนการเกิดอุบัติเหตุทางถนน ลดจำนวนผู้เสียชีวิต และจำนวนผู้บาดเจ็บให้เหลือน้อยที่สุด อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มมาตรการในการป้องกันและปราบปรามการลักลอบกระทำความผิดกฎหมายอีกด้วย
ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 3 มีความห่วงใยในเรื่องของการขับขี่ยานพาหนะ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เนื่องจากจะมีประชาชนและนักท่องเที่ยวสัญจรในปริมาณมาก ประกอบกับเส้นทางในบางพื้นที่ของภาคเหนือมีความสูงชัน เพราะฉะนั้นผู้ขับขี่จึงต้องมีความระมัดระวัง ควรศึกษาเส้นทาง และตรวจสภาพความพร้อมของยานพาหนะ ก่อนการเดินทางไปตามสถานที่และแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ อีกทั้ง ให้หน่วยขึ้นตรงของกองทัพภาคที่ 3ได้ร่วมบูรณาการกับหน่วยงานทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ อาทิ การร่วมบูรณาการกับกรมการขนส่งทางบก ที่ได้จัดเจ้าหน้าที่ตรวจความพร้อมของรถโดยสารสาธารณะ รถยนต์ส่วนบุคคล รถจักรยานยนต์ และจัดหน่วยเคลื่อนที่ออกตรวจจับความเร็วรถด้วยกล้องเลเซอร์ เป็นต้น
นอกจากนี้ แม่ทัพภาคที่ 3 ยังเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงาน ดูแลอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนตลอด 24ชั่วโมง ในหลายด้านอาทิ เป็นพื้นที่พักรถ-พักคน สอบถามเส้นทาง การปฐมพยาบาลเบื้องต้น ตรวจเช็คสภาพรถ บริการน้ำดื่ม-กาแฟ รวมถึงเป็นจุดรับแจ้งเหตุด่วน และที่สำคัญอยากให้ประชาชนร่วมกันตระหนัก ตลอดจนให้ความสำคัญในการรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุบนท้องถนน รวมถึงให้ปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด เพื่อลดปัญหาการสูญเสีย ทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และเพื่อสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนนในสังคมไทยให้เกิดขึ้นอย่างยั่งยืน
พรหมพร. คงเนตร สำนักข่าวที่นี่เมืองสองแคว รายงาน