เมื่อวันที่ 25 เมษษยน 2561 เวลา 18.30 น. พลตรีภาณุวัฒน์ เหนียวแน่น ผู้บัญชาการกองพลพัฒนาที่ 3 เป็นประธานฝายฆารวาส พระมหาธนศักดิ์ จินฺตกวี เลขาเจ้าอาวาสวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ในพิธีบำเพ็ญกุศลทักษิณานุปทานเพื่ออุทิศถวายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต ครบ 413 ปี ณ ลานพระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระมหาชัยเจดีย์ศรีสมอแคลง เขาสมอแคลง ตำบลวังทอง อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก
โดยมี นายภัคพงษ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก พลเอกดร.ศิริ ทิวะพันธุ์ ประธานมูลนิธิสี่แยกอินโดจีน พลตำรวจตรีถาวร แสงฤทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก นายสุวิทย์ สุริยะวงศ์นายอำเภอวังทอง พันตำรวจเอก สมศักดิ์ หฤรักษ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรวังทอง พร้อมด้วยพระสงฆ์ ข้าราชการทหาร ข้าราชการท้องที่ ท้องถิ่น และประชาชนทุกหมู่เหล่าเข้าร่วมในพิธี
ทั้งนี้พลตรีภาณุวัฒน์ เหนียวแน่น ผู้บัญชาการกองพลพัฒนาที่ 3 ได้กล่าวในพิธีว่า สวมชีพ ข้าพพุทธเจ้า พลตรีภาณุวัฒน์ เหนียวแน่น ผู้บัญชาการกองพลพัฒนาที่ 3 พร้อมด้วยพระสงฆ์ ข้าราชการทหาร ข้าราชการพลเรือน และประชาชนทุกหมู่เหล่า ได้มาสโมสรพร้อมกัน ณ มณฑลสถานแห่งนี้ ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาที่คุณแห่งผู้ทรงมีพระนามว่าสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ผู้ทรงกอบกู้เอกราชของชาติไทย ให้มีความเป็นไทยตราบเท่าทุกวันนี้ พระมหากรุณาที่คุณแห่งพระองค์ที่ทรงมีแก่ประชาชาตินั้นยิ่งใหญ่สุดที่จะประมาณ และที่พระองค์ทรงมีน้ำพระราชหฤทัยกล้าหาร เด็ดเดี่ยวประกาศอิสรภาพ ณ เมืองแคลง ต่อหน้าเสนาอำมาตย์ข้าราชบริพาร และสมณะชีพราหมณ์ว่าจะไม่ขึ้นกับกรุงหงสาวดีอีกต่อไป
และพระวีรกรรมอันกล้าหารคือการกระทำยุทธหัตถี จนได้รับชัยชนะต่อพระมหาอุปราชแห่งกรุงหงสาวดี ทำให้พระเกียรติยศขจรขจายไปทั่วทุกสารทิศ จนหมู่ปัจจามิตรมิกล้ามารุกรานเป็นเวลาอันยาวนาน ทำให้ชาติไทยได้รอดผลจากการ เป็นเมืองขึ้นของชาติอื่น จึงกล่าวได้ว่าพระองค์เสด็จอุบัติมาเพื่อทรงปราบยุคเข็ญโดยแท้ จนได้เสด็จสวรรคต ณ เมืองหาง เมื่อวันที่ 25 เมษายน พุทธศักราช 2148 ตรงกับวันจันทร์ ขึ้น 8 ค่ำเดือน 6 ปีมะเส็ง นับเป็นการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ของคนไทย สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงเป็นพระมหาวีรราช ชาตินักรบ มีพระราชหฤทัยห้าวหารเด็ดเดี่ยว ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่สละสุขส่วนพระองค์เพื่อปวงชนและประเทศชาติ ตลอดพระชนม์ชีพมิได้ทรงเกษมสำราญเยี่ยงกษัตริย์ทั่วไปแต่กลับทุ่มเทพระวรกายเพื่อกอบกู้บ้านเมือง นำความรุ่งเรือง สุขสงบ มาให้แก่ประเทศชาติ พระวีรกรรมอันกล้าหาญ น้ำพระราชหฤทัยอันประเสริฐยังปรากฏเป็นพยานสถิตอยู่ในใจคนไทยอย่างมิมีวันลืมเลื่อน แม้จะผ่านกาลเวลายาวนานถึง 400 กว่าปี พระเกียรติคุณยังฟุ้งขจรมิจางหายตราบจนทุกวันนี้ อนึ่ง เนื่องด้วยวันนี้เป็นวันคล้ายวันสวรรคต ครบ 413 ปี แห่งองค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชเจ้าพระองค์นั้น ปวงข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายได้สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ จึงได้พร้อมใจกันมาประชุมสโมสร ณ สถานที่แห่งนี้ เพื่อประกอบพิธีบำเพ็ญกุศล ทักษิณานุปทาน แด่ดวงทิพย์วิญญาณอันศักดิ์สิทธิ์ แห่งองค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช และเทพยดาทุกๆ พระองค์ อันมีเทพารักษ์ รุกขเทวดา และพ่อปู่ขุนเณร เป็นอาทิ ที่สถิตพิทักรักษา ณ สถานที่แห่งนี้ ขอได้โปรดเสด็จมารับพี่รับพลีกรรมสังเวย เสวยเป็นทิพยาหาให้เกิดสำราญเป็นทิพยสมบัติ และโปรดดลบันดาลให้บังเกิด สิริสวัสดิ์พระราชทานพร ให้แก่ผู้ร่วมพิธีทุกท่าน ได้ประสบแต่ความสุข ความเจริญ รอดพ้นจากภัยและภัยพิบัติทั้งปวง อีกทั้งช่วยปกป้องคุ้มครอง ประเทศชาติพระศาสนา พระมหากษัตริย์และปวงชนชนชาวไทย ให้มีความรักสามัคคี มีความสงบร่มเย็นเป็นนิจนิรันดร์เทอญ ในการนี้พระมหาธนศักดิ์ จินฺตกวี ได้แจกแผ่นผ้ายันต์ เป็นพระรูปของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจให้รำลึกถึงพระองค์ท่าน กับผู้ที่ร่วมในพิธีสวดมนต์กันทุกๆคน
พรหมพร คงเนตร สำนักข่าวที่นี่เมืองสองแคว รายงาน