เมื่อวันที่ 22 ส.ค. 58 สภ.เมืองสงขลา พ.ท.กรทิพย์ ดาโรจน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) พร้อมด้วย นายศรชัย ชูวิเชียร ผอ.ป.ป.ช.สงขลา นายมิตร วรรณรัตน์ ผอ.สำนักงานตรวจสอบพิเศษ ภาค 15 สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน และ พ.ต.อ.ตรีวิทย์ ศรีประภา รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.มสงขลา
ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม นายเสถียร ดำรงคดีราษฎร์ อายุ 58 ปี ผู้อำนวยการสำนักงานพุทธศาสนา จ.สงขลา (ไม่ได้นำผู้ต้องหามาแถลงข่าว) พร้อมเงินสดจำนวน 3.2 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินของวัดชลธาราวาส ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส และโทรศัพท์มือถืออีก 1 เครื่อง หลังจากที่ถูกเจ้าหน้าที่ซ้อนแผนจับกุมได้คาหนังคาเขา ขณะเรียกรับเงินจากวัดชลธาราวาส
พ.ต.กรทิพย์ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ทางพระครูบริหารสังฆานุวัตร เลขานุการเจ้าคณะจังหวัดนราธิวาส ได้ประสานไปยังสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินให้ตรวจสอบการเบิกจ่ายเงินงบประมาณในการจัดกิจกรรม และการเผยแพร่พระพุทธศาสนาของวัดชลธาราวาส ซึ่งพบว่ามีพิรุธ
โดยเริ่มจากเมื่อวันที่ 20 ส.ค. ที่ผ่านมา นายเสถียร ได้โทรศัพท์ติดต่อไปยังพระครูบริหารสังฆานุวัตร ทางโทรศัพท์มือถือส่วนตัวหมายเลข 081-8974649 โดยแจ้งว่า เงินอุดหนุนโครงการจัดกิจกรรม และเผยแพร่พระพุทธศาสนา ประจำปี 2558-2559 จำนวน 4 ล้านบาท ที่เข้าบัญชีของวัดชลธาราวาสนั้น หากทางวัดได้รับเงินเรียบร้อยแล้ว ให้แบ่งเก็บไว้ใช้จ่ายในการดำเนินการตามโครงการจำนวน 8 แสนบาท และให้นำเงินส่วนที่เหลือจำนวน 3.2 ล้านบาท มามอบให้กับตัวเอง เพื่อจะได้แบ่งจ่ายให้กับวัดอื่นต่อไป พร้อมกับมีการนัดหมายให้นำเงินจำนวนดังกล่าวมาส่งมอบที่บริเวณลานจอดรถหน้าห้างเทสโก้โลตัส สาขา อ.เมืองสงขลา
จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ซึ่งนำโดย พ.ต.ต.วันกิตติ ทินนิมิตร สว.สส.สภ.เมืองสงขลา จึงได้ซ้อนแผน โดยให้พระครูบริหารสังฆานุวัตรนำเงินสดจำนวน 3.2 ล้านบาท ซึ่งมีการถ่ายสำเนาไว้เป็นหลักฐาน มามอบให้ กระทั่งเวลา 17.30 น. ของวันที่ 21 ส.ค. ที่ผ่านมา ได้มีรถตู้สีเทาของสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.สงขลา ขับเข้ามาจอดติดกับรถของวัดชลธาราวาส และ นายเสถียร ได้ลงมาจากรถเดินเข้าไปพูดคุยกับพระครูบริหารสังฆานุวัตร จากนั้นพระครูบริหารสังฆานุวัตรได้ส่งมอบเงินทั้งหมดให้ ก่อนที่ นายเสถียร จะเดินกลับไปขึ้นรถตู้ เจ้าหน้าที่ ซึ่งวางกำลังอยู่รอบๆบริเวณดังกล่าว จึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม พร้อมของกลางเงินสดจำนวน 3.2 ล้านบาท ดังกล่าว
ด้าน พ.ต.อ.ตรีวิทย์ เปิดเผยว่า จากการสอบสวน นายเสถียร ไม่ขอให้การใดๆในชั้นการจับกุม และให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาดำเนินคดีเป็นเจ้าพนักงาน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ สมาชิกสภาจังหวัด หรือสมาชิกสภาเทศบาล เรียก รับ หรือยอมจะรับ ทรัพย์สินหรือ ประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการ หรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่ง ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่
พ.ต.อ.ตรีวิทย์ ยังเปิดเผยอีกว่า จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. ก่อนหน้านี้พบข้อมูลว่า นายเสถียร เคยเรียกรับเงินจากวัดในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มาแล้ว 2 ครั้ง ในลักษณะเดียวกัน เป็นเงิน 3.7 ล้าบาท ซึ่งเป็นเงินที่รัฐบาลให้เป็นเงินอุดหนุนบำรุงในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเจ้าหน้าที่กำลังสอบสวนในรายละเอียดเพิ่มเติม เพราะ เชื่อว่าไม่น่าจะทำเพียงคนเดียว และอาจจะมีผู้ที่มียศตำแหน่งใหญ่กว่านี้มีส่วนร่วมด้วย ซึ่งจากการสอบสวนทราบว่า นายเสถียร จะเป็นผู้ประสานไปยังวัดต่างๆในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หากวัดใดต้องการเงินส่วนนี้ ก็ให้ติดต่อผ่านตัวเอง แต่ต้องมีส่วนแบ่งเป็นเงินทอนด้วย