ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ มอบหมายให้หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ และอาจารย์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พูดคุยกับประชาชนผ่านรายการผู้ว่าฯ พบประชาชน เน้นย้ำมาตรการอำนวยความสะดวก และความปลอดภัยทางถนน ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563
วันนี้ 22 ธ.ค.62 นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ มอบหมายให้ นายไพรินทร์ ลิ่มเจริญ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ และ ผศ.ดร.อนุชา พรมวังขวง อาจารย์คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมพูดคุยกับพี่น้องประชาชน ในรายการผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่พบประชาชน ทาง สวท. เชียงใหม่ F.M.93.25 MHz
นายไพรินทร์ ลิ่มเจริญ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ ได้พูดคุยถึงผลการซ้อมแผนเผชิญเหตุระดับเอเชีย-แปซิฟิก ที่จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 15-17 ธันวาคมที่ผ่านมา ว่า เป็นการทดสอบการตอบโต้เหตุการณ์ฉุกเฉินระดับชาติของประเทศไทย ในด้านการประสานการรับความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจากต่างประเทศ เมื่อเกิดสาธารณภัยร้ายแรงยิ่ง และมุ่งพัฒนาศักยภาพของทีมค้นหาและกู้ภัยในเขตเมืองของประเทศไทย ให้มีความพร้อมในการเข้ารับการประเมินศักยภาพเป็นทีมขนาดกลางตามมาตรฐาน INSARAG ในปี พ.ศ.2564 ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยมีหน่วยปฏิบัติการด้านการค้นหาและกู้ภัยแห่งชาติ (TEAM THAILAND) ที่มีขีดความสามารถในการรองรับสาธารณภัยขนาดใหญ่ ทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ และได้รับการรับรองการปฏิบัติงานตามมาตรฐานสากล ขณะที่ ผู้บริหารของ INSARAG ก็ได้ชื่นชมประเทศไทยว่ามีพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และสามารถจัดการฝึกซ้อมออกมาได้เป็นอย่างดี สมบูรณ์แบบ ทำให้ทุกคนที่มาร่วมการฝึกซ้อมในครั้งนี้ได้รับบทเรียน ประสบการณ์ และการเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ซึ่งจะนำไปสู่การบูรณการการทำงานร่วมกันในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
นอกจากนี้ยังได้พูดคุยถึงมาตรการอำนวยความสะดวก และความปลอดภัยทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563 โดยจังหวัดเชียงใหม่ได้เตรียมความพร้อมในการรักษาความสงบเรียบร้อยช่วงเทศกาลปีใหม่ แบ่งการดำเนินการออกเป็น 3 ช่วง ได้แก่ ช่วงประชาสัมพันธ์ ช่วงเตรียมความพร้อม และช่วงควบคุมเข้มข้น โดยดำเนินการตามมาตรการหลัก 8 ด้านอย่างเข้มข้น ทั้งด้านคน มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้นและจริงจัง ตามมาตรการ 10 รสขม. ด้านถนนและสภาพแวดล้อม ตรวจสอบถนน ป้าย สัญญาณไฟ ให้ปลอดภัยตามหลักวิศวกรรมจราจร ด้านยานพาหนะ ตรวจสอบรถโดยสารสาธารณะให้พร้อม พนักงานขับรถแอลกฮอลล์เป็น 0 และติดตั้ง GPS รถโดยสาร ด้านนักท่องเที่ยว ดูแลแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ดูแลความปลอดภัย เตรียมความพร้อมของกู้ชีพ กู้ภัย บุคลากรการแพทย์ให้พร้อมอย่างทันทวงที ด้านบริหารจัดการ บูรณาการข้อมูลอุบัติเหตุทางถนน วิเคราะห์การเกิดสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุเชิงลึก และด้านท้องถิ่น ดำเนินมาตรการ “ด่านชุมชน” อย่างจริงจังและเข้มงวด อีกทั้งให้จิตอาสาเข้ามามีส่วนร่วมในการเป็นอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ในลักษณะเคาะประตูบ้าน เพื่อแนะนำความปลอดภัยในการใช้ยานพาหนะด้วย
ด้าน ผศ.ดร.อนุชา พรมวังขวง อาจารย์คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ร่วมพูดคุยเกี่ยวการติดตั้งอุปกรณ์ตรวจจับจุดจอดรถในถนนนิมมานเหมินทร์ ซึ่งคณะทำงานจากสำนักงานจังหวัดเชียงใหม่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และภาคเอกชน ได้ร่วมกันดำเนินงานในการใช้เทคโนโลยี Internet of Thing นำเซ็นเซอร์ตรวจการจอดทับของรถยนต์ หรือ “เซ็นเซอร์ห้ามจอด” ฝังตามแนวขาว-แดง บนถนนนิมมานเหมินท์ และถนนศิริมังคลาจารย์ จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งถนนดังกล่าวเป็นพื้นที่ถูกเลือกให้เป็นสมาร์ทซิตี้ ต้นแบบของจังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจากปัญหาการทำผิดกฎจราจร โดยจอดรถยนต์บนแนวขาว-แดง ที่มีระยะห่างจากทางเลี้ยวทางแยก 10 เมตร บนถนนนิมมานเหมินท์ เป็นสาเหตุที่ทำให้รถติด โดยเฉพาะในชั่วโมงเร่งด่วน โดยเทคโนโลยี Internet of things ติดตั้งโดยการฝังพื้น และปิดด้วยพลาสติกแข็ง ซึ่งการทำงานนี้เมื่อมีรถยนต์มาจอดทับ เซ็นเซอร์จะส่งสัญญาณไปยังระบบคลาวด์ในอินเทอร์เน็ต ภายในระยะเวลาประมาณ 15 นาที จะแจ้งเตือนทาง Line notice ไปยังกลุ่มไลน์ของเจ้าหน้าที่จราจร เพื่อดำเนินการภาคบังคับต่อไป ซึ่งขณะนี้ได้มีการติดตั้งเซ็นเซอร์ห้ามจอดเพื่อทดสอบระบบแล้ว จำนวน 4 เซ็นเซอร์ และจะติดตั้งให้ครบ 171 เซ็นเซอร์ภายในเดือนมกราคม 2563 ซึ่งจะครอบคลุมบริเวณทางแยกบนถนนนิมมาน-ศิรมังคลาจารย์ทุกทางแยก