เมื่อวันที่ 1 ต.ค. 58 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า มีชาวบ้านจำนวนมากได้รวมตัวกัน ที่บริเวณศาลาการเปรียญ วัดไผ่ขอน้ำ ม.3 ต.มะตูม อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก เพื่อเรียกร้องทวงคืนที่ดินให้กับทางวัด หลังจากก่อนหน้ามีการนำที่ดินของวัดไปออกโฉนดเป็นของตัวเอง จึงได้เดินทางไปที่วัดดังกล่าว พบว่าบนศาลาการเปรียญวัดไผ่ขอน้ำมีชาวบ้านจำนวนหนึ่งมานั่งประชุมหารือกัน โดยมีตัวแทนชาวบ้านพูดผ่านเครื่องขยายเสียง ให้ทุกคนมารวมตัวกัน เพื่อร่วมทำการตรวจรังวัดกับเจ้าหน้าที่ที่ดินจากสำนักงานที่ดินจังหวัดพิษณุโลก สาขาพรหมพิราม
ต่อชาวบ้านทั้งหมดได้พาเจ้าหน้าที่ที่ดินเดินสำรวจ พร้อมให้ผู้เฒ่าคนเก่าคนแก่จำนวนหลายคนที่ยังมีชีวิตอยู่ได้ชี้เขตแนววัดที่ยังพอจะหลักฐานหลงเหลืออยู่บ้าง โดยเฉพาะที่เนินดิน ซึ่งชาวบ้านต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นสุดแนวเขตวัด เรียกกันว่าต้นโพธิ์ล้อมขนาดใหญ่ แต่ปัจจุบันไม่มีต้นโพธิ์ให้เห็นแล้ว จึงมีการใช้ไม้ไผ่ผูกผ้าเหลืองจีวรพระปลักเอาไว้ นอกจากนั้นยังปักตามจุดที่เป็นแนววัดทั้งหมด เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบรังวัดอีกครั้ง
จากการตรวจสอบหลักฐาน พบว่าพื้นที่ของวัดไผ่ขอน้ำ จากหลักฐานเก่าแก่ที่ระบุเอาไว้ พบว่าวัดไผ่ขอน้ำ มีที่ดินทั้งหมดประมาณ 44 ไร่ ต่อมามีชาวบ้านบางคนยึดครองที่ดินวัดกว่า 10 ไร่ และมีการออกโฉนดที่ดินไปแล้วจำหนึ่งหนึ่ง ช่วงหลังทางวัดไปตรวจสอบออกโฉนด ปรากฏว่าเนื้อที่ของวัดเหลือเพียง 32 ไร่เท่านั้น ต่อมาทางวัดและชาวบ้านส่วนมากได้ขอคืนที่ดินของวัดทั้งหมด ทำให้ชาวบ้านบางคนที่ออกโฉนดเป็นของตัวเองไม่ยินยอม เนื่องจากอ้างว่าเป็นที่ทำกินมานานหลายสิบปี กระทั่งมีการฟ้องร้องต่อศาล กระทั่งมีคำสั่งของศาลให้มีการไกล่เกลี่ย แต่ไม่สามารถไกล่เกลี่ยกันได้ กระทั่งศาลมีคำสั่งให้สำนักงานที่ดินจังหวัดพิษณุโลก สาขาพรหมพิราม ตรวจสอบรังวัดพื้นที่วัดอีกครั้ง เพื่อทำการตรวจสอบต่อไป
พรหมพร คงเนตร สำนักข่าว ที่นี่เมืองสองแคว.com รายงาน