นายแพทย์ปิยะ ศิริลักษณ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยว่า จากสถานการณ์โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ของจังหวัดพิษณุโลก พบผู้ป่วยจำนวน 393 ราย (ข้อมูล 1 ตุลาคม 2558 ถึง 30 กันยายน 2559) โรคที่พบป่วยมากที่สุด คือ หนองในแท้,ซิฟิลิส และแผลริมอ่อน ตามลำดับ อาชีพที่พบป่วยสูงสุดได้แก่ นักเรียน , รับจ้าง อายุที่พบป่วยสูงสุดอยู่ระหว่าง 15 – 24 ปี รองลงมา อายุระหว่าง 25– 34 ปี และระหว่าง 35 – 44 ปี ตามลำดับ ที่มาของการติดโรคส่วนใหญ่มาจาก คู่นอนชั่วคราวหญิง ร้อยละ 40.7
ข้อมูลจากการสำรวจพฤติกรรมที่สัมพันธ์กับการติดเชื้อเอชไอวี กลุ่มเยาวชนในสถานศึกษา (ชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 2,ปีที่ 5 และอาชีวศึกษาระดับ ปวช. 2) ปี 2559 จำนวน 1,456คน พบว่า ทั้งเยาวชนชาย และหญิงเคยมีประสบการณ์ทางเพศสัมพันธ์ครั้งแรกอายุน้อยลง เฉลี่ย 13 ปี(ผลสำรวจในกลุ่ม ม.2)และเฉลี่ย 15 ปี(ผลสำรวจในกลุ่ม ม.5และ ปวช.2) คู่นอนส่วนใหญ่เป็นแฟน/คู่รัก ถึงร้อยละ 85 กลุ่ม ม.2 มีการใช้ถุงยางอนามัยเมื่อมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก ในชายและหญิง ร้อยละ 53.85 และ 30.77และกลุ่ม ม.5/ปวช. 2 การใช้ถุงยางอนามัยในการที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก ชายหญิง ร้อยละ61.11และ 63.64 นอกจากนี้ยังพบการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างชายกับชาย ร้อยละ 13.3 และใช้ถุงยางอนามัยเพียง ร้อยละ 50 ทำให้ปัญหาการติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ของเยาวชนมีแนวโน้มอัตราป่วยเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องใน 5 ปีที่ผ่านมา(พ.ศ.2554 – 2558) โดยเฉพาะโรคหนองในและซิฟิลิส ทำให้มีโอกาสติดเชื้อเอชไอวีมากกว่าคนปกติ 3 – 9 เท่า อีกทั้งทำให้เกิดการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์เพราะส่วนหนึ่งคิดว่าการร่วมเพศครั้งเดียวแล้วจะไม่ตั้งครรภ์ และการใช้ถุงยางอนามัยจะขัดขวางความรู้สึกทางเพศ แม่วัยรุ่นจึงตัดสินใจทำแท้ง ซึ่งเสี่ยงอันตรายและอาจเสียชีวิตได้
เนื่องในวันเทศกาลวันแห่งความรักที่กำลังจะมาถึงนี้ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก ขอส่งความปรารถนาดีและความห่วงใย เพื่อให้ประชาชนปลอดภัยจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และเอดส์ โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น ต้องมีความเข้าใจความต่างระหว่างความรักกับเพศสัมพันธ์ มีความรู้เรื่องการใช้ถุงยางอนามัย รู้จักรักตนเอง มีทักษะการปฏิเสธ สิ่งเหล่านี้ทุกภาคส่วนต้องปลูกฝังในเด็กและร่วมมือกันจัดกิจกรรมรณรงค์อย่างต่อเนื่อง สม่ำเสมอ ไม่เพียงเฉพาะในวันแห่งความรักเท่านั้น