ช่วยเเชร์ จ้า .....

พลโท สุภโชค ธวัชพีระชัย แม่ทัพน้อยที่ 3 ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขไฟป่าและหมอกควันระดับภาค ส่วนหน้า (ศอ.ปกป.ภาค.สน.) เป็นประธานประสานงานการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ประจำปีงบประมาณ 2562 ที่สโมสรกาวิละ มทบ.33 ค่ายกาวิละ จังหวัดเชียงใหม่ การประชุมในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประสานงานการปฏิบัติ โดยให้ส่วนราชการพลเรือนเป็นหน่วยงานหลัก โดยเฉพาะผู้นำท้องที่อยู่ใกล้ชิดกับประชาชนในพื้นที่ ให้ปฎิบัติตามมาตรการและกฎหมายที่ใช้ในการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันอย่างเคร่งครัด โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 9 จังหวัดภาคเหนือ เข้าร่วมการประชุม

แม่ทัพน้อยที่ 3 กล่าวว่าในช่วงหน้าแล้งเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนเมษายนต์ของทุกปี จะพบการเพิ่มสูงขึ้นของฝุ่นละอองในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน สิ่งแวดล้อมและสภาวะเศรษฐกิจของจังหวัดภาคเหนือ ซึ่งในปีที่ผ่านมาสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่เก้าจังหวัดภาคเหนือมีแนวโน้มที่ดีขึ้น แต่ก็ยังคงส่งผลกระทบต่อสุขภาพและการดำเนินชีวิตของประชาชน ซึ่งสาเหตุและปัจจัยที่ทำให้การเกิดไฟป่าและหมอกควันที่สำคัญได้แก่ การเผาป่าเพื่อหาของป่า และล่าสัตว์ การเผาทำลายเศษวัสดุที่เหลือใช้จากการเกษตร โดยไม่มีการจัดระเบียบการเผาที่ดี ตลอดจนการเกิดหมอกควันข้ามชาติข้ามแดนมาจากประเทศเพื่อนบ้านเป็นต้น.

 ทั้งนี้กองทัพภาคที่สาม3 ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขไฟป่าและหมอกควันระดับภาค ได้มอบหมายให้กองทัพน้อยที่3 จัดตั้งศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขไฟป่าและหมอกควันระดับภาคส่วนหน้าขึ้น โดยมีภารกิจในการวางแผนอำนวยการควบคุมและกำกับการดูแลการปฏิบัติงานของชุดรณรงค์ป้องกันไฟป่าและหมอกควันทั้ง 14 ชุด รวมทั้งอำนวยการและบูรณาการการแก้ไขไฟป่าและหมอกควันร่วมกับศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า และหมอกควันระดับจังหวัดในห่วงวันที่ 1 ธันวาคม 2561 ถึง 30 เมษายน พ.ศ. 2562. เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจแก่ราษฎรในการเฝ้าระวังแจ้งเตือนการเกิดไฟป่าและป้องกันมิให้เกิดไฟป่าขั้นรุนแรง จากปีที่ผ่านมาในพื้นที่ทั้งเก้าจังหวัดภาคเหนือตรวจพบจุดความร้อนจำนวน 4722 จุด ด้วยตรวจพบจังหวัดที่มีความร้อนสักสงสูงตามลำดับคือ จังหวัดตาก จังหวัดแม่ฮ่องสอน และจังหวัดเชียงใหม่ ทั้งนี้สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ(Gistda)ได้สรุปสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควัน ประจำปี 2562 โดยคาดการณ์ว่าจะมีจุดความร้อนสะสมเฉลี่ยสูงสุดประมาณ 4920 จุด และต่ำสุด 3280 จุด เฉลี่ยประมาณ 4323 จุด ลดลง 400 จุด หรือ 8% แม่ทัพน้อยที่ 3 กล่าวเพิ่มเติมว่าใน ปีงบประมาณ 2562 นี้ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันระดับภาคส่วนหน้ามีแนวทางดำเนิน การสามห้วงได้แก่ห้วงก่อนประกาศห้ามเผาเด็ดขาด(ชิงเผา) ห้วงประกาศเขาเด็ดขาด( 60 วันอันตราย) และห้วงหลังประกาศห้ามเผาเด็ดขาด โดยในระดับจังหวัดควรประกาศห่วงห้ามเผาเด็ดขาดก่อน ล่วงหน้า 2เดือน และกำหนดห่วงเวลาชิงเผาอย่างเป็นระบบ ทั้งก่อนและหลังล่วงหน้าอย่างน้อย 1 เดือน ก่อนห้วงห้ามเผาเด็ดขาดของจังหวัด โดยให้ผู้นำท้องที่/ท้องถิ่น กำกับและดูแลควบคุม เพื่อให้เป็นไปตามแผนและช่วงเวลาที่กำหนด ตลอดจนมีการประชาสัมพันธ์ รณรงค์ทุกรูปแบบอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตามศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันระดับภาค ส่วนหน้าจะใช้กลไกประชารัฐ โดยทุกภาคส่วนเข้ามาร่วมมือกัน แก้ไขปัญหามุ่งเน้นการรณรงค์สร้างจิตสำนึกและใช้การประชาสัมพันธ์ด้วยสื่อทุกชนิด เพื่อประชาสัมพันธ์ความรู้ ความเข้าใจในเรื่องของปัญหาและผลกระทบที่เกิดจากไฟป่าและหมอกควัน ตลอดจนการเตรียมความพร้อมในการเฝ้าระวังและแนวทางการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนต่อไป

พรหมพร คงเนตร สำนักข่าวที่นี่เมืองสองแคว รายงาน

1416 เยี่ยมชมหน้านี้ทั้งหมด 2 เยี่ยมชมวันนี้
error: สวัสดีค่ะ