พิษณุโลก เดินป่าคลองชมพู ชมธรรมชาติ ดอกศิลาวารีย์ กำลังโผล่เหนือน้ำ สวยงาม
นายอำเภอเนินมะปราง พร้อมชาวบ้านชมภู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ร่วมเดินเปิดการท่องเที่ยวชมคลองชมพู ภายในอุทยานแห่งชาติแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ระยะ 4-10 กม. สัมผัสธรรมชาติงดงาม โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว นักท่องเที่ยวชมดอกศิลาวารีย์ หรือดอกไม้น้ำ ที่สมบูรณ์ ชมหินน้อยใหญ่ และนอนกางเต้นกลางคลองชมพู ท่ามกลางบรรยากาศค่ำคืนฟังเสียงธารน้ำไหล
วันนี้( 14 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านชมพู ต.ชมภู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก นายไสว เจริญศรี นายอำเภอเนินมะปราง พร้อมด้วย กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และกลุ่มไกด์ชุมชนเที่ยวไทยไปชมภู นำโดยนายบุญสืบ เผือกอ่อน ประธานกลุ่มฯ นั่งรถบริการนักท่องเที่ยวและเดินชมธรรมชาติ ตามเส้นทางการท่องเที่ยวคลองชมพู ไม่ว่าจะเป็นแก่งคันนา แก่งกะซาว คลองเค็ม วังปืน ถ้ำน้ำน้อย ลานหินลาด น้ำตกทูแม้ว คลองห้วยบ่ง แต่ละจุดมีแหล่งท่องเที่ยวให้ชมและศึกษาอย่างสวยงาม ตามระยะทาง 4-15 กิโลเมตร
นายไสว เจริญศรี นายอำเภอเนินมะปราง กล่าวว่า คลองชมพู แห่งนี้ถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ อีกแห่งหนึ่งที่อยู่ในพื้นที่ อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวที่ชื่นชมสายผจญภัยเดินป่ากางเต้นท์ค้างแรม ที่บริเวณกลางคลองชมพู โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวนี้่ ก็มีความงามไม่แพ้ฤดูฝนและฤดูแล้ง เนื่องจากปริมาณน้ำในคลองชมพูน้อยลง ทำให้มองเห็นโขดหินน้อยใหญ่ บางช่วงก็เป็นแผ่นกินมีรูปลักษณ์ต่างๆ บางช่วงก็มีหินเป็นหลุ่ม คล้ายที่ 3 พันโบก บางช่วงมีก็แอ่งน้ำทางธรรมชาติที่สวยงาม มีแหล่งศึกษาตามธรรมชาติ โดยบริเวณคลองน้ำเค็ม ในฤดูแล้งก็มีเกลือเกาะตามโขดหินในคลองน้ำ เนินกระเบื้องโบราณ บานหินปืน แก่งคันนา แก่งกระซาว เป็นต้น
ด้านนายบุญสืบ เผือกอ่อน ไกด์ชุมชนท่องเที่ยวไทยไปชมพู กล่าวว่า หลังจากหมดฝนแล้ว ผู้ที่ชื่นชอบกางเต้นตามลานหินในคลองชมภู ก็สามารถกางเต้นท์ได้แล้ว โดยในช่วงนี้นักท่องเที่ยวก็สามารถมาเที่ยวชมธรรมชาติต่างๆมากมาย ที่สำคัญ ดอกศิลาวารีย์ หรือ ดอกไม้น้ำ ที่หาชมได้ยากมาก หนึ่งเดียวที่คลองชมพู เริ่มออกดอก โผล่เหนือน้ำมาให้นักท่องเที่ยวได้ชมกันอย่างสวยงาม ไปพร้อมกับเล่นน้ำตามแอ่ง หรือแก่งต่างๆ ได้อย่างสบายใจ พร้อมกับชิมอาหารพื้นบ้านที่กลุ่มไกด์ชุมชน ได้ตระเตรียมมาให้แก่นักท่องเที่ยวได้ชิมกันอีกด้วย พร้อมกับปรุงอาหารสด ที่เก็บได้ตามป่าที่เดินเท้า เช่น ยอดผักหวาน ยอดหนาม ยอดผักขวาง เป็นต้น ส่วนในยามค่ำคืน นักท่องเที่ยวก็จะนอนฟังเสียงน้ำไหลและเสียงจิ้งหรีดเรไร่ ได้อย่างเพลิดเพลิน
นายบุญสืบ เผือกอ่อน ไกด์ชุมชนท่องเที่ยวไทยไปชมพู กล่าวว่า เดินทีนั้นกลุ่มตนเอง ก็จะทำนา ทำไร่ ช่วงไม่ได้ทำนา ก็จะหาของป่า หรือที่เรียกนายพราน โดยเมื่อปี 2563 ที่ผ่านมา ชาวบ้านที่สนใจในเรื่องการท่องเที่ยวชุมชน ก็เริ่มเลิกอาชีพนายพราน หันมาเปิดท่องเที่ยวชมธรรมชาติ ที่คลองชมพู เพราะนอกจากจะเป็นการสร้างรายได้ให้กลุ่มชาวบ้านแล้ว ยังเป็นการร่วมอนุรักษ์ธรรมชาติตามสายน้ำคลองชมพูอีกด้วย โดยนักท่องเที่ยว สามารถมาเที่ยวและกางเต้นท์ค้างแรม ได้ตลาดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นฤดูฝน ฤดูหนาว และ ฤดูแล้ง โดยเฉพาะฤดูแล้ง นักท่องเที่ยวก็มาชมคลองเกลือ ที่มีลักษณะโดดเด่น และเรื่องราวอันยาวนาน ซึ่งตลอดการเดินป่านั้น กลุ่มตนเองก็จะเล่าถึงความสำคัญของจุดต่างๆ ให้นักท่องเที่ยวได้ฟังกันอย่างเพลิดเพลิน โดยที่ผ่านมาก็มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมคลองชมพู กันอย่างต่อเนื่อง บางทริปท่องเที่ยว ก็นอน 2 คืน 3 วัน บางทริป ก็นอน 1 คืน 2 วัน ก็มี แล้วแต่นักท่องเที่ยวจะสะดวก
หากนักท่องเที่ยวต้องการมาชมและสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติที่คลองชมพู ก็สามารถติดต่อที่ตนเองได้ เบอร์โทรศัพท์ 085-7374528 ได้ โดยแต่ทริป ที่พานักท่องเที่ยวไปเที่ยวชมคลองชมพู นั้นก็จะทำเรื่องขออนุญาตเจ้าหน้าที่ทางหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ที่ 5 (สล.5) ทุกครั้ง ส่วนเรื่องความปลอดภัยนั้นทางกลุ่มชาวบ้านก็จะคอยดูกันเป็นอย่างดี